เกือบเป็นเกมที่น่าอับอายสำหรับปีศาจแดง
ครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การควบคุมของ เอริค เทน ฮาก สร้างดราม่าให้กับตัวพวกเขาเองในฤดูกาลนี้?
มันเป็นปัญหาเดิมๆ เรื่องเดิมๆ ที่เกิดขึ้นมาตลอดทั้งฤดูกาลนี้ พวกเขาเหมือนทีมที่ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่ ขาดผู้นำ แม้ว่าจะมีกัปตันทีมก็ตาม
มีปัญหาในเรื่องของสภาพจิตใจ สมาธิแตกง่าย ไร้ระเบียบวินัย และอื่นๆ อีกมากมาย
”ผู้เล่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และกองเชียร์ ไม่ได้อยู่ในจุดที่เหนือกว่า เพราะว่าพวกเขาโชคดีที่คว้าชัยชนะในเกมนี้ พวกเขาเกือบอับอายขายขี้หน้าในตอนจบ” รอย คีน อดีตกองกลางพันธุ์ดุของปีศาจแดงกล่าวกับ ITV1
”ผมไม่ชอบในสิ่งที่ผมเห็นตอนที่ผมดู ยูไนเต็ด กลุ่มนี้ลงเล่น ผมไม่เห็นความเป็นผู้นำเลย”
นับถือหัวจิตหัวใจของ โคเวนทรี
”ผมรู้สึกภาคภูมิใจในสิ่งที่ลูกทีมของผมทำในวันนี้” มาร์ค โรบินส์ กุนซือ โคเวนทรี กล่าวหลังเกม
มันเกือบกลายเป็นชัยชนะที่ง่ายดายสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่เชื่อเถอะว่าตอนที่ทีมของ โรบินส์ ลงมาเล่นในครึ่งหลังด้วยสกอร์ที่ตามหลังอยู่ 0-2 และ 0-3 พวกเขาคิดว่า “มันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว”
แพ้กี่ลูกก็ตกรอบเหมือนกัน ดังนั้น ลงไปเล่นด้วยแรงกล้า กล้าที่จะบุก กล้าที่จะสู้ และพยายามยิงประตูปลอบใจฝากแฟนบอล
และแล้วพวกเขาก็มายิงคืน 3 ลูกรวดในช่วง 20 นาทีสุดท้าย+ทดเจ็บ บางทีหากพวกเขาไม่กลัวทีมของ เอริค เทน ฮาก มากเกินไป พวกเขาอาจสร้างความลำบากใจให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ครึ่งแรกก็เป็นได้
รีแมตช์คู่ชิงฯ
ศึกดาร์บี แมตช์ แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ จะเกิดขึ้นอีกครั้งในฤดูกาลนี้ แต่เป็นในเวอร์ชันเอฟเอ คัพ
ฤดูกาลที่แล้ว ยูไนเต็ด แพ้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ในนัดชิงชนะเลิศของรายการดังกล่าวไป 1-2 และครั้งนี้มันจะเป็นการเจอกันในรอบชิงฯ เพียงหนที่ 2 ของทั้งสองทีม
“หาก แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นแบบนี้กับ แมนฯ ซิตี้ พวกเขามีโอกาสแพ้ 6 หรือ 7 ลูก” คลินตัน มอร์ริสัน อดีตกองหน้า โคเวนทรี กล่าวกับ BBC Radio 5 Live
“โคเวนทรี เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมมากๆ การยิงจุดโทษของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยอดเยี่ยมมาก และ อ็องเดร โอนานา ก็เซฟได้เยี่ยมจริงๆ แต่ก็ต้องยกเครดิตให้กับ โคเวนทรี ด้วย”
“พวกเขาเอาตัวรอดไปได้ และนั่นคือสาเหตุที่การเฉลิมฉลองดูไม่ค่อยจะแฮปปี้กันสักเท่าไหร่ แมนฯ ยูไนเต็ด ปิดงานของพวกเขาได้สำเร็จ และตอนนี้พวกเขาก็จะไปดวลกับ แมนฯ ซิตี้”
ปีศาจแดงสร้างสถิติใหม่
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สร้างสถิติใหม่ด้วยการเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ เป็นครั้งที่ 22 กลายเป็นทีมที่เข้ามาเล่นในรอบชิงฯ มากสุดในประวัติศาสตร์
ตามมาด้วย อาร์เซนอล มากสุดเป็นอันดับ 2 ที่ 21 ครั้ง, เชลซี 16 ครั้ง และ ลิเวอร์พูล 15 ครั้ง
รู้หรือไม่?
ปีศาจแดงคว้าชัยในรอบชิงฯไปแล้ว 12 ครั้ง และแพ้อีก 9 ครั้ง แต่พวกเขาไม่ได้สัมผัสถ้วยเก่าแก่นี้อีกเลยนับตั้งแต่ปี 2016 ยุค หลุยส์ ฟาน กัล นั่งเก้าอี้กุนซือ