จากกรณีที่เป็นข่าวใหญ่เมื่อ โจ ณัฐวุฒิ นักมวยไทยรุ่นเฟเธอร์เวต ในสังกัด ONE ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่ได้รับเงินค่าตัวจากการจ้างงานไม่ครบตามสัญญาหลังจากที่ทาง “พ่อเลี้ยงเจ” เจ้าของ วนาสุวรรณฟาร์ม ผู้ว่าจ้างได้เผยตัวเลขเงินว่าจ้างด้วยเงินทั้งหมด 200,000 บาท
แต่สุดท้าย นักมวยไทยวัย 35 ปี ได้รับเงินจาก UPR Vision บริษัทผู้ดูแลสิทธิ์ประโยชน์ต่างๆ เพียงแค่ 50,000 บาท หลังทางบริษัทแจ้งว่าได้รับเงินแค่ 75,000 บาทเท่านั้น จากงานที่ได้รับการว่าจ้าง
ล่าสุด อองตวน ปินโต พร้อมด้วย แอลรียาส์ สิงหอานนท์ ภรรยาสาว ได้ร่วมแถลงข่าวชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมด ยืนยันว่า UPR Vision ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามติดต่อเพื่อขอให้เข้ามาะพูดคุยถึงการแก้ปัญหา รวมแล้ว 13 ครั้งแต่ไม่เป็นผล
ซึ่งในส่วนของเรื่องเงินค่าตัวที่ลูกค้าจ้าง 200,000 บาท แต่กลับได้ค่าตัวจากบริษัทแค่ 75,000 บาท ทาง UPR ชี้แจงว่า บริษัทแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เอเจนซี ที่ทำหน้าที่ขายงาน กับ ผู้จัดการหน้าที่จะต่างกัน คือที่หนึ่งจะมีหน้าที่จัดการดูแลงานต่างๆ ส่วนอีกที่จะจัดหางานให้กับคนในสังกัด
ดังนั้นงานที่ลูกค้าจ้าง 200,000 บาท แล้วตกลงรับกันไว้ที่ 70-30 สัญญาจะมี 2 ฉบับ คือ โจ ทำไว้กับทั้งเอเจนซี่ และผู้จัดการของ UPR ทำให้ค่าตัวที่ได้รับมา 200,000 บาท จะถูกหักค่าดำเนินการเข้าทั้ง 2 แผนก และ โจ รับรู้ว่าค่าตัวได้ 75,000 บาทตั้งแต่แรก
แต่ล่าสุดได้ตัดสินใจโอนเงินให้ โจ แล้ว 70 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวน 200,000 บาท ไม่ได้โอนเพราะยอมรับว่าโกง แต่โอนเพื่อเป็นการขอโทษกับการที่ไม่ได้อธิบายการทำงานให้เข้าใจอย่างละเอียด
ส่วนในเรื่องของเงินขายเสื้อต้องขอโทษ และยอมรับผิด เนื่องจากแจ้งยอดการขายไม่ตรงกัน 3 ครั้ง เกิดความผิดพลาดในแผนกที่รับผิดชอบ ทำให้ตัวของ แอลรียาส์ สิงหอานนท์ ต้องเข้ามาจัดการเคลียร์เอกสารเองทั้งหมดช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ส่วนสาเหตุที่ยังไม่ได้โอนค่าเสื้อทั้งหมด เนื่องจากต้องการเช็กตัวเลขให้แน่นอน รวมถึง โจ ณัฐวุฒิ ยังไม่มีการตรวจสอบเลยยังไม่โอน เพิ่งมาโอนไปเมื่อไม่กี่วันมานี้ สรุปคือ เสื้อผลิตมา 500 ตัว ขายได้ 368 ตัว (ขายตัวละ 1,290 บาท) โจ ได้ตัวละ 400 บาท หัก 3 เปอร์เซ็นต์
พร้อมกันนี้ตัวของ อองตวน ปินโต ก็ยอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเหมือนตนโดนสังคมตัดสินไปแล้ว ยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้โกง และไม่เคยคิดทรยศใครหรืออาชีพตัวเอง ทุกข้อผิดพลาดขอยอมรับ และแก้ไขมัน