ยังคงเป็นขวัญใจของแฟนกำปั้นชาวไทยตลอดกาลสำหรับ “บักจ่อย” แซมซั่น กระทิงแดงยิม นักชกชาวไทยดีกรีแชมป์โลก รุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท ของสหพันธ์มวยโลก (WBF)
ซึ่งแม้เจ้าตัวจะหันหลังให้กับสังเวียนกำปั้นมานานกว่า 20 ปี แต่ชื่อของเจ้าตัวก็ยังคงเป็นที่จดจำ และถูกกล่าวถึงอย่างต่อเนื่องเมื่อพูดถึงแชมป์โลกชาวไทยที่มีลีลาการชกโดนใจ
แซมซั่น หรือชื่อจริง สมบุญ พานตะสี เป็นชาวจังหวัดร้อยเอ็ด เริ่มต้นชกมวยไทยภายใต้ชื่อ แสนเมืองน้อย ลูกเจ้าพ่อมเหศักดิ์ นักมวยค่าตัวเงินแสน ที่กวาดแชมป์ทั้งเวทีลุมพินี และ เวทีราชดำเนิน ได้สำเร็จ ไฟต์ที่แฟนมวยจดจำก็คือการพบกับ “พยัคฆ์หน้าขรึม” วีระพล สหพรหม ทั้ง 2 ครั้ง โดยผลัดกันแพ้ชนะ แถมคว้ารางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยมปี 2534 มาครองด้วย
ก่อนที่จะเบนเข็มมาชกมวยสากล ซึ่งแม้ด้วย สหพันธ์มวยโลก (WBF) สถาบันมวยที่เจ้าตัวชกนั้นอาจจะไม่ได้รับการยอมรับมากนักในยุคนั้น แต่ด้วยลีลาการชกสไตล์บู๊ล้างผลาญเดินลุยตั้งแต่เสียงระฆังดังยันคู่ต่อสู้ลงไปกอง ทำให้ก้าวขึ้นมาเป็นขวัญใจชาวไทยได้ในเวลาอันรวดเร็ว
แถมสถิติการชกก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา ขึ้นสังเวียนชกในแบบฉบับมวยสากล 43 ไฟต์ ชนะรวดทั้งหมด แถมเป็นการเอาชนะน็อกได้ถึง 36 ครั้ง ป้องกันแชมป์ไว้ได้ถึง 38 ครั้ง เรียกว่าเป็นนักมวยที่ขึ้นป้องกันตำแหน่งเดือนต่อเดือนกันเลยทีเดียว ก่อนแขวนนวมในปี พ.ศ. 2544
มาในวันนี้ อดีตกำปั้นในวัย 52 ปี ยังคงดูแลสุขภาพร่างกายเป็นอย่างดี ด้วยการวิ่งออกกำลังกายเกือบทุกเช้า และมีการชกกระสอบทรายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ แถมยังมีกิจกรรมคลายเหงาด้วยการเป็นเทรนเนอร์ให้กับนักมวยรุ่นใหม่
เรื่องราวการใช้ชีวิตของ แซมซั่น ถือเป็นต้นแบบของนักมวยรุ่นน้องได้เป็นอย่างดี รู้จักเก็บรู้จักออมนำรายได้จากการชกมวยมาซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดิน ส่งลูกเรียนหนังสือครบทุกคน แถมมีภรรยาที่ดีช่วยกันหาช่วยกันเก็บไม่ลำบากยามแขวนนวม