“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กลับสู่ฟอร์มเก่งอีกครั้งด้วยการเปิดรังถล่ม บอร์นมัธ ไปได้แบบสุดสวย 3-0 เก็บสามแต้มสำคัญ ทำแต้มทาบ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ ที่มี 12 คะแนนเท่ากัน แต่ลูกได้เสียดีกว่า ทำให้ขยับนำจ่าฝูงลีก เราไปดูประเด็นที่เกิดขึ้นในเกมกัน
หงส์กับเชอรี่ส์
อาจเคยพลิกล็อกเปิดบ้านหักปีกหงส์ (1-0, ฟิลิป บิลลิ่ง) มาเมื่อต้นปี 2023 แต่นั่นก็เป็นเพียงชัยชนะเดียวของ บอร์นมัธ ที่มีต่อ ลิเวอร์พูล ในระยะ 5 เกมหลังสุด ซึ่งหงส์แดงยิงประตู เดอะ เชอรี่ส์ ได้กระจัดกระจายถึง 18 ประตู
- 9-0 ที่แอนฟิลด์ ต้นซีซั่น 2022/23
- 3-1 ที่แอนฟิลด์ ต้นซีซั่น 2023/24
- 2-1 ที่ไวทัลลิตี้ ถ้วยลีกคัพ 2023/24
- และ 4-0 ที่ไวทัลลิตี้ หลังปีใหม่ 2024
อดีต (ไม่นานนัก) เป็นมาแบบนั้น ส่วนปัจจุบัน (ก่อนเกม) ลิเวอร์พูล ก็ยังดีกว่าจม ต่อให้จะแพ้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ คาบ้านมาสัปดาห์ก่อน ก็ยังมีแล้ว 9 แต้มในมือ ในขณะที่ บอร์นมัธ จมครึ่งล่างของตาราง ชนะนัดเดียว (3-2 เอฟเวอร์ตัน) จาก 4 เกมแรก
เมื่อทั้งอดีตและปัจจุบันเป็นแบบนั้น OPTA จึงทำนายอนาคต 90 นาทีตรงหน้าเอาไว้แบบนี้ – ลิเวอร์พูล ชนะ 69% / เสมอกัน 18% / บอร์นมัธ ชนะ 13%
เกือบ 70% ที่ ลิเวอร์พูล จะมาวิน เรียกว่าโอกาสพลิกล็อกผ้าฝ่าคว่ำซ้ำรอยเก่า แทบไม่มีอยู่แต่อย่างใด
Liverpool FC v AFC Bournemouth – Premier League / Alex Livesey/GettyImages
ทีของ นูนเญซ
สำหรับการจัดทีมวันนี้ของ อาร์เน่อ สล็อต ถือว่าหวยออกผิดคาดอยู่เล็กน้อย
ไม่ได้พลิกโผกับการที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน หรือ หลุยส์ ดิอาซ กลับมาทวงตำแหน่งคืน หลังจาก คอสตาส ซิมิคาส กับ โคดี้ กัคโป แทรกลงตัวจริงไปในเกมบุกทะลวง อีเซ — เอซี มิลาน ในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ส่วนการแทนกันโดยตรงของ ควีวิน เคลเลอร์ กับ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ก็ไม่ได้ผิดจากคาด หลังการเผยข่าวช่วงเย็นวันศุกร์
ที่ถือว่าพลิกโพอสมควร คือ ดาร์วิน นูนเญซ
วันนี้ หัวอุรุกวัย ได้โอกาสโชว์ของตั้งแต่ต้น ทดแทน ดีโอโก้ โชต้า ที่ฟอร์มการเล่นช่วง 2-3 นัดหลังออกมาไม่ค่อยน่าประทับใจ
รวมทั้งว่าหลังจากยิง อิปสวิช ทาวน์ 1 เม็ดในเกมเปิดสนาม (2-0) แล้วนั้น โชต้า ก็คลำเป้าไม่เจออีกเลย
Liverpool FC v AFC Bournemouth – Premier League / Alex Livesey/GettyImages
3 นาที 35 วิ
จะเป็นการออกสตาร์ทเกมที่ไม่แตกต่างจากที่ มิลาน กับการโดน คริสเตียน พูลิซิช พังตาข่ายนำ 1-0 ตั้งแต่ 3 นาทีแรก
วันนี้ จัสติน ไคลเวิร์ต กระชากลากเลื้อยพรวดขึ้นหน้า ก่อนปาดไปเสาไกลให้ อองตวน เซเมนโย่ ทิ้งตัวชาร์จเข้าไปง่ายๆ หลังจากเกมเริ่มขึ้นไป 3 นาทีกับอีก 35 วินาที
แต่ไม่ต้องลุ้นกันนาน VAR เช็กปั๊บเห็นชัดว่า เซเมนโย่ ยืนเหลื่อมจากไลน์กองหลัง ดังนั้น… ล้ำหน้า
เพียงแต่ก็อีกนั่นแหละ ต่อให้วันนี้ บอร์นมัธ จะเป็นฝ่ายขึ้นนำได้จริงๆ
ก็เชื่อว่า ลิเวอร์พูล พลิกกระดานได้ (อีก) แน่
FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-BOURNEMOUTH / PAUL ELLIS/GettyImages
ครึ่งของหลุยส์
ที่จริง มันมีสิทธิ์จะเป็นครึ่งของ “โค้ชเกป้า” เข้าให้เหมือนกัน กับการโชว์ของ เซฟหนแล้วหนเล่า พุ่งแล้วแผลวอีกของ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า นายประตูสแปนิชที่ บอร์นมัธ ฉุดพ้นขุมนรกสีน้ำเงินมาอย่างเซอร์ไพรส์ (ตรงที่กัปตันทีม เนโต้ ย้ายออกเฉย)
กระนั้นเล่นไปเล่นมา มันก็กลายเป็น “ครึ่งของหลุยส์” ไปเสีย
- นาทีที่ 8 กับการส่องเต็มข้อหน้าเขตโทษหวิดเสียบใต้คาน ติดปลายมือ เกป้า นิดเดียว
นาที 22 ทะลุเข้าทางซ้าย พยายามยิงยัดเสาแรก ไม่ผ่าน เกป้า
นาที 26 กระโดดรับบอลโยนจาก อิบราฮิมา โกนาเต้ พร้อมหักหลบ เกป้า ไปส่องเข้าตาข่ายอย่างมั่นใจ เปิดสกอร์นำ 1-0
นาที 28 รับบอลจ่ายจาก เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ด้วยเท้าขวา แล้วอัดลอดตัว เกป้า ด้วยเท้าซ้าย เป็น 2-0
จากที่ 0-0 อยู่ดีๆ เจอพี่หลุยส์เข้าไป ใครลุกไปยิงกระต่ายช่วงนาที 26 พอดี กลับมาดูอีกทีคงต้องเกาหัวแกรก เอ้า อะไรฟะ 2-0 แล้ว
Liverpool FC v AFC Bournemouth – Premier League / Alex Livesey/GettyImages
จบแล้วจบเลย
2-0 ก็ว่ายากแล้ว 3-0 จึงนับว่าจบเห่สำหรับ บอร์นมัธ
ถัดจากสองเม็ดของ หลุยส์ ดิอาซ ที่ทำให้ปีกโคลอมเบียยิงแล้วถึง 5 ประตู นำดาวซัลโวของทีมยุค อาร์เน่อ สล็อต แล้วนั้น
ดาร์วิน นูนเยซ ก็โชว์ตะบันงามๆ ด้วยซ้าย ถ่างสกอร์ขึ้น 3-0 ในนาที 37
จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ ครึ่งหลังก็แทบไม่มีความหมาย
เรียกว่า ลิเวอร์พูล การันตี 3 แต้มเต็มจาก บอร์นมัธ ได้แค่ภายใน 45 นาทีแรกเท่านั้น
Liverpool FC v AFC Bournemouth – Premier League / Alex Livesey/GettyImages
5 นัด 12 แต้ม
ไม่ได้ 100% ไม่ได้สวยสดงดงามเหมือนบางคู่แข่ง
แต่ 12 แต้มจาก 5 นัดแรก ถ้าหยิบยื่นให้ตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นซีซั่น ก็เชื่อว่า ลิเวอร์พูล จะอ้าแขนรับมันไว้อย่างเต็มใจ
5 เกมชนะ 4 แพ้ 1 ยิงได้ 9 เพิ่งจะเสียไปประตูเดียว และทำแล้ว 4 คลีนชีต
ลิเวอร์พูล ยังขึ้นนำจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก เป็นการชั่วคราวก่อน แมนฯ ซิตี้ เนื่องด้วยตอนนี้แต้มเท่ากัน แต่หงส์แดงดีกว่าในผลต่างประตูได้เสีย (+9 : +8)
เพราะฉะนั้น เดอะ ค็อป ห้ามพลาด ซูเปอร์บิ๊กแมตช์อาทิตย์นี้ สี่ทุ่มครึ่ง แมนฯ ซิต้ ดวลเดือด อาร์เซน่อล
Liverpool FC v AFC Bournemouth – Premier League / Alex Livesey/GettyImages
โกยเถอะโยม
เริ่มต้นซีซั่นได้ยอดเยี่ยม เพอร์เฟ็กต์สตาร์ทตลอด 3 นัดแรก แต่ก็พุ่งชนความพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว
กระนั้น หงส์ของ สล็อต ได้แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมและหัวจิตหัวใจออกมาแล้ว
ฟื้นตัวบุกปราบ เอซี มิลาน ถึง 3-1
และเกมนี้กับการสานต่อความร้อนแรง ขยี้ บอร์นมัธ 3-0 ที่เอาจริงๆ ก็น่าไปไกลกว่านั้นอีก
ถัดจากนี้อีก 2-3 นัด ลิเวอร์พูล ดูเจองานไม่ยากกับ เวสต์แฮม (คาราบาว คัพ) และเกมลีกทั้ง 2 กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน และ คริสตัล พาเลซ
ด้วยมาตรฐานนี้ ด้วยฟอร์มแบบนี้ ก็น่าเชื่อว่า ลิเวอร์พูล จะเดินหน้าชนะไปอย่างต่อเนื่อง
ช่วงนี้ ตักตวงได้ต้องรีบตักตวง
เพราะสิ่งที่รอพวกเขาอยู่ คือการต้องเจอกับ เชลซี, อาร์เซน่อล, เลเวอร์คูเซ่น, เรอัล มาดริด และ แมนฯ ซิตี้ ในเวลาไล่เลี่ยไล่เรียงกัน ตั้งแต่กลางเดือนหน้า (20 ต.ค.) เป็นต้นไป!
FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-BOURNEMOUTH / PAUL ELLIS/GettyImages