สถิติน่าสนใจก่อนเกม "แดงเดือด" หนนี้เลือดจะพล่าน(มั้ยนะ?) – [FEATURE]

“แดงเดือด” ยกแรกของพรีเมียร์ลีก 2024/25 มาถึงอย่างรวดเร็ว ในเพียงนัดที่ 3 ของฤดูกาล และมาพร้อมภาพของความแตกต่าง

เมื่อในขณะที่ผู้มาเยือนอย่าง ลิเวอร์พูล กำลังมือขึ้น ชนะ 2 นัดแบบไม่เสียประตู ฝั่งเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สะดุดแพ้ไปแล้วอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าจับตาอย่างยิ่งว่าผลสกอร์ของเกมใหญ่นัดนี้จะออกหน้าไหน และจะยึดโยงกับสถิติตัวเลขเหล่านี้มากน้อยเพียงใด
gettyimages-2165073876-594x59
• การเปิด โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับมือ ลิเวอร์พูล 3 นัดหลังสุดในทุกรายการ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่แพ้เลย ชนะได้ถึง 2 นัดและเสมออีก 1 ประกอบด้วยการชนะ 2-1 ต้นซีซัน 2022/23 และสองเกมของซีซันที่แล้ว ซึ่งชนะ 4-3 ในเอฟเอ คัพ และเสมอ 2-2 เกมลีกท้ายซีซัน

• แมนฯ ยูฯ เกือบชนะในเกมลีกท้ายซีซันก่อนด้วยซ้ำไป แต่มาเสียจุดโทษตอนท้าย และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงตีเสมอฉกแต้มให้ ลิเวอร์พูล กลับออกไปด้วยผล 2-2

• แต่ถึงแม้สถิติช่วงหลังจะเป็นรอง ลิเวอร์พูล ยุค เยอร์เกน คล็อปป์ ก็เคยบุกมาชนะปีศาจแดงด้วยสกอร์ถล่มทลายถึง 5-0 มาแล้วในซีซัน 2021/22 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แฮตทริก
gettyimages-1236101149-594x59
• การพบกัน 12 ครั้งหลังสุดในพรีเมียร์ลีก แต่ว่านับรวมทั้งเกมในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และแอนฟิลด์ ทีมที่ถือไพ่ได้เปรียบคือหงส์แดง จากการที่ แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้แค่นัดเดียวเท่านั้นเอง (ก็คือ 2-1 ต้นซีซัน 2022/23) ที่เหลือเป็นเสมอ 5 แพ้ไปถึง 6

• โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เหมือนจะมี แมนฯ ยูฯ เป็น “ของหวาน” เมื่อดาวยิงอียิปต์ลงเผชิญหน้ากับ แมนฯ ยูไนเต็ด 15 ครั้ง กระหน่ำตาข่ายปีศาจแดงได้ถึง 14 ประตู

• ยกเว้นเกมที่จบด้วยผลเสมอ 0-0 แล้ว ซาลาห์ ลั่นสกอร์ใส่ แมนฯ ยูฯ ได้ “ทุกนัด” ในระยะ 4 ปีหลัง หรือทำได้ 13 ประตูจากคิวเตะทั้งหมด 10 เกม

• ซาลาห์ กดแล้ว 2 ประตูจาก 2 นัดแรก ในโอกาสจบทั้งหมด 7 ครั้ง

• ด้านดาวยิง (?!?) ฝั่งผีแดง มาร์คัส แรชฟอร์ด สามารถพังประตู ลิเวอร์พูล ได้ทั้งหมด 7 ลูก (มากกว่านี้มีแค่ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เจ้าตัวยิงได้ 8 ประตู) แต่ก็จากจำนวนเกมมากถึง 18 นัด
gettyimages-2091859587-594x59
• อย่างไรก็ตาม ซีซันนี้ แรชฟอร์ด ยังไม่มีประตู และสำคัญคือ ยังไม่มีโอกาสสับไกยิงแม้แต่ครั้งเดียวด้วยซ้ำ จากระยะเวลา 155 นาทีในสนาม ของเกมที่ชนะ ฟูแลม 1-0 และแพ้ ไบรท์ตัน 1-2

• บรูโน แฟร์นันเดส มีโอกาสลุ้นสกอร์มากที่สุดของ แมนฯ ยูฯ ซีซันนี้ ที่จำนวน 7 ครั้ง ซึ่งตรงกรอบ 3 แต่ก็ยังไม่เป็นประตูแต่อย่างใด

• มานูเอล อูการ์เต ตัวใหม่ล่าสุดของ แมนฯ ยูฯ อยู่ในสภาพพร้อมลงสนาม แต่ก็มีรายงานว่าทีมปีศาจแดงยังลงทะเบียนให้นักเตะเล่นเกมแดงเดือดนัดนี้ไม่ทัน ต้องรอหลังเบรกทีมชาติโน่นถึงจะได้ประเดิมเกมแรก

• เฟเดริโก เคียซา มีสถิติยิง 32 ประตูให้ ยูเวนตุส ในระยะ 4 ปี ก่อนย้ายสู่ ลิเวอร์พูล ซัมเมอร์นี้
gettyimages-2169248899-594x59
• เคียซา เคยลงสนามดวลกับทีมอังกฤษแค่ 2 ครั้ง พบ เชลซี ในยูฟา แชมเปียนส์ ลีก 2021/22 ซึ่งเขาก็เป็นเจ้าของประตูโทนยิงพาทีมชนะ เชลซี 1-0 ในตูริน (ก่อนแพ้ 0-4 ที่ลอนดอน)

• ซีซัน 2013/14 ลิเวอร์พูล ยุคของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เริ่มต้นด้วยการชนะ 2 นัดแรกเหมือนซีซันนี้เป๊ะๆ (1-0 สโต๊ค ซิตี้, 1-0 แอสตัน วิลลา) และยังต่อด้วยชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 ในวันที่ “1 กันยายน” 2013 ด้วยการซัลโวของ แดเนียล สเตอร์ริดจ์

• ลิเวอร์พูล สร้างโอกาสจบได้ถึง 37 ครั้งใน 2 เกมแรกของซีซันนี้ นับเป็นสถิติสูงที่สุดของลีก และก็ยังไม่เสียประตูด้วย (2-0 อิปสวิช, 2-0 เบรนท์ฟอร์ด)

• อลิสซอน เบ็คเกอร์ ทำไป 2 คลีนชีต โดยเซฟไปทั้งสิ้น 4 ครั้งใน 2 เกมที่ผ่านมา

• อาร์เนอ สล็อต นายใหญ่คนใหม่ของหงส์แดง เคยประมือกับ เอริค เทน ฮาก กุนซือผีแดง มาทั้งหมด 4 ครั้งในเอเรดิวิซี เนเธอร์แลนด์ ได้ผลเท่ากันคือ ชนะ 2 แพ้ 2 : อาแซด อัล์คมาร์ ของ สล็อต ชนะ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ของ เทน ฮาก 1-0 และ 2-0 จากนั้นต่อมา เฟเยนูร์ด ของ สล็อต แพ้ อาแจ็กซ์ ของ เทน ฮาก 0-2 และ 2-3
gettyimages-1237331443-594x59
• สล็อต มีสิทธิ์เป็นกุนซือ ลิเวอร์พูล คนแรกถัดจาก บ็อบ เพสลีย์ (1975) ที่เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ทันทีในการปะทะกันครั้งแรก หลังเข้ารับงานในแอนฟิลด์

• ซีซันที่แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะนัดแรก (1-0 วูล์ฟส์) แล้วแพ้ในเกมที่ 2 (0-2 สเปอร์ส) เช่นเดียวกัน ก่อนที่สุดท้ายจะแพ้ไปถึง 14 นัดตลอดซีซัน

• 14 เกมดังกล่าว คือจำนวนแพ้สูงสุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตลอดประวัติศาสตร์การเล่นพรีเมียร์ลีก หรือมากที่สุดนับตั้งแต่ 1989/90 ที่แพ้ 16 นัด

• เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังกัปตันทีมหงส์แดง จะลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกครบ 200 นัดให้ ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์นี้ หลังจากที่ผ่านมามีสถิติชนะ 139 จาก 199 นัด สูงสุดเป็นประวัติการณ์

• คู่นี้เพิ่งพบกันในพรีซีซันที่สหรัฐอเมริกา เมื่อ 3 ส.ค. ซึ่ง ลิเวอร์พูล ชนะ 3-0 ด้วยประตูของ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ, เคอร์ติส โจนส์ และ คอสตาส ซิมิคาส ทั้งที่ตลอดเกม หงส์แดงสร้างโอกาสยิงได้แค่ 9 ครั้ง ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงรวมถึง 18 หน แต่ไม่ได้ประตูเลย

• สกอร์ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล คาบ้าน 0-3 ก็เคยเกิดขึ้นมาก่อนเช่นเดียวกันในพรีเมียร์ลีก 2013/14 (16 มี.ค. 14) ซึ่งวันนั้น สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมหงส์แดง ยิงคนเดียว 2 ประตู