ต้องบอกว่าเป็นยอดมวยระดับอัจฉริยะสำหรับ “เติ้ล” มนัส บุญจํานงค์ นักมวยสากลสมัครเล่นดีกรีเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ เอเธนส์ 2004 และ เหรียญเงิน โอลิมปิกเกมส์ ปักกิ่ง 2008
วันนี้ Sanook Sport จะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับ ประวัติ มนัส บุญจํานงค์ นักชกไทยคนแรก และคนเดียวที่สามารถคว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้ 2 สมัย
ประวัติ มนัส บุญจํานงค์
ชื่อจริง : มนัส บุญจํานงค์
เกิดวันที่ : 24 มิถุนายน พ.ศ. 2523
จังหวัด : ราชบุรี
ผลงานสร้างชื่อ
เหรียญทองโอลิมปิก 2004 รุ่นไลต์เวลเตอร์เวต
เหรียญเงินโอลิมปิก 2008 รุ่นไลต์เวลเตอร์เวต
เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2006
เหรียญทองแดงชิงแชมป์โลก 2003
เหรียญทองซีเกมส์ 2003
เหรียญทองซีเกมส์ 2007
มนัส บุญจำนงค์ มีชื่อเล่นว่า “เติ้ล” เกิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2523 ที่ตำบลพงสวาย อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เป็นบุตรของ นายมโน และ นางมาลี บุญจำนงค์ มีน้องชายอีก 2 คนคือ มานนท์ บุญจำนงค์ และ พันธนินทร์ บุญจำนงค์ ทั้ง 3 พี่น้องหัดชกมวยมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก
จุดเริ่มต้นของเส้นทางมวยสากลสมัครเล่น เริ่มต้นใน กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 11 สงขลา เมื่อปี 1995 หลังคว้าเหรียญทอง รวมทั้งได้รางวัลนักชกยอดเยี่ยม จนไปเตะตา ฮวน ฟอนตาเนียล โค้ชชาวคิวบา อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมมวยสากลทีมชาติไทยที่ไปดูและเรียกตัวติดเยาวชนทีมชาติตั้งแต่อายุเพียง 14 ปี
จากนั้นชีวิตพลิกผันแบบสุดๆ ต้องเดินทางเข้ามาเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ ที่โรงเรียนสารวิทยา รวมทั้งฝึกซ้อมในแคมป์ทีมชาติจากนั้นเป็นตั้นมา จนติดทีมซีเกมส์ 2003 ที่ประเทศเวียดนาม และหยิบเหรียญทองมาครองได้ จนกลายเป็นที่รู้จักของแฟนมวยชาวไทยนับแต่นั้น
แต่สิ่งที่ทำให้ทั่วโลกกลายเป็นที่รู้จักคือการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เมื่อสามารถฝ่าด่านหิน 5 รอบ ก่อนหยิบเหรียญทอง ในรุ่น 64 กิโลกรัม มาครองได้แบบสุดยอด ถือเป็นนักชกไทยรายที่ 3 ที่สามารหยิบเหรียญทองโอลิมปิกได้
หลังการหยิบเหรียญทอง โอลิมปิก 2004 มาครองได้ ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ ได้ถาโถมเข้ามาพร้อมกัน และทำให้ กำปั้นไทย หลงระเริงกับชื่อเสียเงินทองออกเที่ยวตระเวนราตรีถึงขนาดที่ออกมายอมรับว่า อาทิตย์หนึ่ง เที่ยวทุกวันทุกคืน เลี้ยงเพื่อนฝูงจนเงินรางวัล 10 ล้านหายไปเกือบหมด
แม้จะประสบปัญหาชีวิตมากมายแต่ มนัส บุญจำนงค์ ก็ยังมีฝีมือพอผ่านการคัดตัวติดทีมมวยของประเทศไทย ในการแข่งขัน โอลิมปิกเกมส์ ปักกิ่ง 2008 ที่ต้องบอกว่าตลอดทัวร์นาเมนต์เจ้าตัวมีปัญหาในเรื่องของการคุมน้ำหนักตัว แม้จะไม่สมหวังกับเหรียญทอง แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็คว้าเหรียญเงิน มาครองได้
อย่างไรก็ตามด้วยวัยที่มากขึ้นทำให้สุดท้าย เจ้าตัวสามารถกลับสู่เส้นทางที่ถูกที่ควรได้ และเรื่องราวของ ยอดนักชกเสื้อกล้าม ก็กลายเป็นอุทาหรณ์ให้กับนักชกรุ่นน้องที่ไม่อยากก้าวเดินทางผิด ก่อนได้รับฉายาจากบรรดาสื่อว่า “เพลย์บอยกลับใจ” ซึ่งปัจจุบัน มนัส บุญจำนงค์ ผันตัวมาเป็นเทรนเนอร์สอนมวยให้กับนักชกรุ่นใหม่ๆ ของประเทศไทย