ควันหลงศึกชิงแชมป์สภามวยโลก (WBC) รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต ระหว่าง “เอล กัลโล่” ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราด้า แชมป์โลก กับ เจสซี่ โรดริเกวซ ผู้ท้าชิงชาวสหรัฐฯ เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา
โดยผลการแข่งขันอย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า “แบม” กำปั้นดาวรุ่งชาวสหรัฐฯ เป็นฝ่ายเอาชนะน็อกไปได้ในยกที่ 7 กระชากเข็มขัดแชมป์โลกไปครองได้สำเร็จ พร้อมทั้งยัดเยียดการแพ้น็อกครั้งแรกให้กับ “เอล กัลโล่” อีกด้วย
อย่างไรก็ตามหลังจบไฟต์ แมตช์ รูม ฝ่ายจัดการแข่งขันได้เปิดใบคะแนนในช่วง 6 ยก ของทั้งคู่ออกมา ปรากฏว่า เจสซี่ โรดริเกวซ เป็นฝ่ายชนะ 58-54, อีกหนึ่งคนให้เสมอกัน 56-56 และ กรรมการชาวเม็กซิโก ให้ เอสตราด้า เป็นฝ่ายชนะ 57-56
ซึ่งก็สร้างความแปลกใจให้กับแฟนมวยเป็นอย่างมาก เพราะเกมการชกเป็นทางฝั่ง เจสซี่ โรดริเกวซ ที่ทำได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน ถึงขั้นที่ แชมป์โลกคนใหม่วัย 24 ปี ออกมาเปิดใจว่า “มันบ้าไปแล้ว ผมคิดว่าผมคุมเกมการต่อสู้ได้หมด ไม่มียกไหนที่ผมเป็นรอง แม้แต่ยกที่ผมถูกนับ ผมก็กลับมาได้ ดังนั้นคะแนนทั้งหมดทำให้ผมประหลาดใจมาก ยังดีที่ผมเดินออกจากการต้องใช้ใบคะแนนตัดสิน”
อย่างไรก็ตาม ใบคะแนนดังกล่าวทั้งหมด เป็นอันต้องพับเก็บไปเมื่อ เจสซี่ โรดริเกวซ ปล่อยหมัดฮุกซ้ายเข้าเต็มชายโครงส่ง เอสตราด้า ทิ้งตัวลงไปนอนชักดิ้นชักงอให้กรรมการนับถึง 10 ก็ไม่ยอมลุกขึ้นมาสู้จนแพ้ไปในที่สุด งานนี้บอกเลย หากครบ 12 ยก แล้วต้องมารวมคะแนนไม่แน่บางทีอาจเกิดดราม่าขึ้นก็เป็นได้