“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ประกาศศักดาครองเบอร์ 1 เจ้ายุโรปได้อีกสมัย หลังเป็นฝ่ายเอาชนะ ดอร์ทมุนด์ 2-0 ในการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023-24 ที่สนามเวมบลีย์ ประเทศอังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา
จากชัยชนะในเกมนัดนี้ทำให้ เรอัล มาดริด ผงาดคว้าแชมป์ยุโรป สมัยที่ 15 ทิ้งห่างบรรดาสโมสรร่วมทวีปแบบไม่เห็นฝุ่น พร้อมทั้งทำสถิติไม่แพ้ใครในการลงเล่นรายการนี้ตลอดเส้นทางตั้งแต่รอบแรกในฤดูกาลนี้อีกด้วย
ซึ่งหลังจบเกม มาร์ก้า สื่อยักษ์ใหญ่แดนกระทิงดุ ได้เปิดเผยเงินรางวัลที่จะได้จากรายการนี้ อ้างอิงจากการที่ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เคยออกมาการประกาศก่อนหน้านี้ว่ายอดเงินรางวัลรวมในปีนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 2,032 ล้านยูโร (ประมาณ 80,000 ล้านบาท) เท่ากับซีซั่นก่อน
โดยเงินรางวัลทั้งหมดจะถูกแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรก 55 เปอร์เซ็นต์จะมอบให้กับทีมต่างๆ ตามผลงาน ส่วนเงินรางวัลอีก 45 เปอร์เซ็นต์จะแบ่งเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ (ประมาณ 600 ล้านยูโร) จ่ายให้กับ 32 ทีมที่เข้ามาเล่นรอบแบ่งกลุ่ม ส่วนอีก 15 เปอร์เซ็นต์ (ประมาณ 300 ล้านยูโร) จ่ายตามค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด
ทำให้ เรอัล มาดริด โกยเงินในฤดูกาลนี้ไปทั้งหมด 84.5 ล้านยูโร (ประมาณ 3,365 ล้านบาท) แบ่งเป็นเงินรางวัลจากการคว้าแชมป์ 20 ล้านยูโร (ประมาณ 796 ล้านบาท) และเงินรางวัลจากผลงานในรอบที่ผ่านๆ มาที่พวกเขาเก็บชัยได้รัวๆ อีกถึง 64.5 ล้านยูโร (2,569 ล้านบาท) เลยทีเดียว
เงินรางวัลตามผลงานในแต่ละรอบ (คิดจาก 55 เปอร์เซ็นต์ของยอดเงินรางวัลรวม)
– แชมป์รับเงิน 20 ล้านยูโร
– รองแชมป์รับเงิน 15.5 ล้านยูโร
– เข้ารอบรองชนะเลิศรับเงิน 12.5 ล้านยูโร
– เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายรับเงิน 10.6 ล้านยูโร
– เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายรับเงิน 9.6 ล้านยูโร
– ชนะในรอบแบ่งกลุ่ม (ต่อนัด) 2.8 ล้านยูโร
– เสมอในรอบแบ่งกลุ่ม (ต่อนัด) 930,000 ยูโร
– ผ่านเข้ามาเล่นรอบแบ่งกลุ่ม 15.64 ล้านยูโร