กลายเป็นเกมที่ถูกพูดถึงไปทั่วโลกสำหรับการเจอกันของ อิหร่าน พบ ฝรั่งเศส ในการแข่งขัน ฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2024 ที่ประเทศอุซเบกิสถาน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา
โดยก่อนเกม ทั้งสองทีมที่อยู่ใน กลุ่ม เอฟ มี 6 คะแนนเท่ากัน แต่ อิหร่าน รั้งอันดับ 1 เนื่องจากประตูได้เสียดีกว่า ฝรั่งเศส ที่อยู่ในอันดับ 2 แถมกลุ่มนี้หากใครเป็นแชมป์กลุ่มจะต้องไปเจอกับ โมร็อกโก ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ขณะที่รองแชมป์กลุ่ม จะต้องมาเจอกับ ทีมไทย
ซึ่งจุดที่ทำให้ทั้งสองชาติ มองก็คือหากเข้าเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม สายในรอบน็อกเอาต์ จะต้องโคจรไปเจอกับ “แชมป์โลก 5 สมัย” บราซิล ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่หากหลุดเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม หนทางจะสดใสกว่ามากๆ
สัญญาณความอัปยศเริ่มต้นขึ้นเมื่อเกมในครึ่งแรกจบลงด้วยสกอร์ 0-0 โดย ฝรั่งเศส มีโอกาสยิง 2 ครั้ง และทางด้าน อิหร่าน มีโอกาสยิง 6 ครั้ง ซึ่งต่ำกว่าสถิติที่มันควรจะเป็นในโลกของฟุตซอลอย่างมาก
จากนั้นในครึ่งหลัง ตีโบต์ การ์รอส ผู้รักษาประตูของฝรั่งเศส ก็กลับยืนตรงปล่อยให้บอลเข้าประตูไปแบบหน้าตาเฉย ซึ่งทำให้เกิดเสียงวิจารณ์เป็นอย่างมาก รวมถึง ริคาร์โด้ อินญิเกซ โค้ชชาวสเปน ที่คุมทีมชาติลิเบีย ในการแข่งขันครั้งนี้
“ลิเบีย จะยื่นคำร้องต่อ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เกี่ยวกับแมตช์นี้ในข้อหาล็อคผลการแข่งขัน มันถือเป็นความเสื่อมเสียของวงการกีฬาของเรา” กุนซือชาวสเปน โพสต์ข้อความผ่านโลกออนไลน์ หลังได้ชมเกมอัปยศ
สำหรับทีมฟุตซอลลิเบีย เข้าร่วมการแข่งขันฟุตซอลโลก รอบสุดท้ายได้เป็นสมัยที่ 3 และเพิ่งจะสร้างประวัติศาสตร์เก็บชัยนัดแรกได้สำเร็จ หลังเอาชนะ นิวซีแลนด์ 3-1 แม้สุดท้ายพวกเขาจะไม่ดีพอได้ไปต่อในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่พวกเขาก็ลงเล่นอย่างเต็มที่ทุกเกม
อ่านต่อเพิ่มเติม
- ฉาวทั่วโลก! เปิดคลิป “การ์รอส” นายด่านฟุตซอลฝรั่งเศส ปล่อยบอลเข้าประตู
- เกมนี้แพ้ตกรอบทันที! โปรแกรมฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
- ได้ครบ 16 ชาติ! เปิดชื่อทีม “ฟุตซอล” ลุยรอบน็อกเอาต์ ศึกชิงแชมป์โลก 2024
- สรุปตารางคะแนน+ผลงาน “ฟุตซอลไทย” หลังจบรอบแรก ในศึกชิงแชมป์โลก 2024